Human's Empire ::: ดารา สายพาน ธารหมอก
"ตามหาความหมายของชีวิตซะ ไปที่ๆเห็นดวงตะวันบนท้องฟ้า เห็นดาวเดือนตอนกลางคืน ไปให้พ้นที่นี่ ไม่งั้นเธอจะตาย!เขาหนีจากห้องทดลองสู่โลกที่แตกต่าง จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์ที่เรียกตนเองว่า'มนุษย์'
ผู้เข้าชมรวม
76,053
ผู้เข้าชมเดือนนี้
236
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Lucia & ลูเซีย / ไหน้อยลูเซีย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Lucia & ลูเซีย / ไหน้อยลูเซีย
"ทำให้คนอ่านมองหาคุณค่าของตัวเอง"
(แจ้งลบ)คนจะเป็นคนไม่ใช่เมื่อมีใครบอกว่า เราเป็นคน แต่เมื่อเรารู้ตัวว่า เราเป็นคนครับ นิยายเรื่องนี้ทำให้เรามองดูตัวเอกที่พยายามแสวงหาคุณค่าความเป็นคนของตัวเอง จนเราต้องย้อนมาดูว่าตัวเราที่มีสิ่งที่เนเวิสมีทุกอย่างอยู่แล้ว เราเข้าใจและเห็นคุณค่าเท่ากับที่เนเวิสมีหรือยัง ดูลครแล้วย้อนมาดูตัว อ่านนิยายก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองด้วยเหมือนกัน แต่นิยายที่ทำให้เ ... อ่านเพิ่มเติม
คนจะเป็นคนไม่ใช่เมื่อมีใครบอกว่า เราเป็นคน แต่เมื่อเรารู้ตัวว่า เราเป็นคนครับ นิยายเรื่องนี้ทำให้เรามองดูตัวเอกที่พยายามแสวงหาคุณค่าความเป็นคนของตัวเอง จนเราต้องย้อนมาดูว่าตัวเราที่มีสิ่งที่เนเวิสมีทุกอย่างอยู่แล้ว เราเข้าใจและเห็นคุณค่าเท่ากับที่เนเวิสมีหรือยัง ดูลครแล้วย้อนมาดูตัว อ่านนิยายก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองด้วยเหมือนกัน แต่นิยายที่ทำให้เราต้องนึกย้อนกลับมามองคุณค่าชีวิตอย่างจริงจังแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ และขอบคุณที่ไรเตอร์ทำให้ผมมองชีวิตสดใสขึ้นกว่าเดิมเยอะ ขอบคุณมากครับ อ่านน้อยลง
Conshoo | 16 มี.ค. 55
22
1
"ร่างกาย+จิตใจ = ชีวิต"
(แจ้งลบ)Human’s Empire ดารา สายพาน ธารหมอก ผู้เขียน: Lucia คำเตือน สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นข้อคิดเห็นของคนเพียงคนเดียว อย่าเพิ่งนำไปตัดสินเรื่องทั้งหมดนะเออ ขออภัยที่ SD อู้ไปนาน เหตุผลเป็นเพราะอะไร SD กำลังคลั่งละครเกาหลี อยากซุกอกพระเอก ฮุฮุ SD อ่านนิยายเรื่องนี้ค้างไว้นานมาก ซึ่งเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ มน ... อ่านเพิ่มเติม
Human’s Empire ดารา สายพาน ธารหมอก ผู้เขียน: Lucia คำเตือน สิ่งที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นข้อคิดเห็นของคนเพียงคนเดียว อย่าเพิ่งนำไปตัดสินเรื่องทั้งหมดนะเออ ขออภัยที่ SD อู้ไปนาน เหตุผลเป็นเพราะอะไร SD กำลังคลั่งละครเกาหลี อยากซุกอกพระเอก ฮุฮุ SD อ่านนิยายเรื่องนี้ค้างไว้นานมาก ซึ่งเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ มนุษย์ในยุคดาราภิวัฒน์ท้าทายพระเจ้าด้วยการทดลองสร้าง “มนุษย์” ขึ้นมาเอง แม้จะสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบเพียงใดก็ยังมีข้อบกพร่อง คำสั่งทำลายทิ้งจึงส่งลงมา ทว่านักวิทยาศาสตร์หญิงคนหนึ่งก็มีความผูกพันกับมนุษย์เทียมคนนั้น เธอจึงแอบช่วยเหลือให้เขาหลุดพ้นออกสู่โลกภายนอก เธอเองก็เปรียบดั่งแม่ที่ช่วยให้เนเวิสหลุดออกจากรกอันอึดอัดคับแคบ และถึงแม้ว่าการทดลองนี้จะโหดเหี้ยมเพียงใด สุดท้ายแล้วผู้เขียนก็เลือกให้ผู้หญิงเป็นผู้ใจอ่อน เธอกระซิบบอกให้เนเวิสค้นหาโลกที่มีดวงดาว แต่ก้าวแรกที่เขาพบ กลับเจอเพียงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยควันขมุกขมัวและตึกแปลกประหลาด มีคนจากองค์กรและสัตว์กลายพันธุ์ไล่ฆ่า จนกระทั่งมาถึงเขตปลอดภัย และได้พบครอบครัวที่แสนอบอุ่น นิยายแฝงแง่คิดนิด ๆ เอาสิ มาเลย บอกกันตรง ๆ ว่า SD ง่วงเลย ไม่ใช่ว่าพล๊อตไม่ดี เนเวิสเกิดมาได้สองเดือน มีสรีระเท่ากับคนอายุ 15 แล้วอายุสมองล่ะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าเนเวิสคือหุ่นยนต์ที่ต้องป้อนคำสั่งให้ สิ่งที่ทำให้ SD สะดุดกึกเลยก็คือการที่เนเวิสมักจะทวนกับตัวเองและคนอื่นบ่อย ๆ ว่า คำนู่นแปลว่าอะไร คำนี้แปลว่าอะไร และที่หนักคือ “แม่คืออะไร” เมื่อได้คำตอบแล้ว เนเวิสก็ไม่ได้คิดถามว่าแล้วตัวเองล่ะ เกิดมาจากไหน หรืออย่างน้อย ๆ ก็ใช้ประโยชน์จากการถามนี้ โยงว่าความรู้พื้นเพเดิมที่เนเวิสได้รับจากห้องทดลองมีอะไรบ้างก็ยังดี รูปภาพที่ถูกอัดให้ดูในห้องทดลองมันก็น่าจะทำให้เขาคุ้นเคยโลกในระดับหนึ่ง รวมทั้งตามปกติแล้วเมื่อคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่มาตั้งแต่เกิด มันก็ย่อมเป็นนิสัยชอบไม่ชอบของเนเวิสไปโดยอัตโนมัติ และหญิงนักทดลองคนนั้นคือคนที่เขาผูกพันด้วยมากที่สุด ถึงแม้ว่าเนเวิสจะไม่รู้ความหมายของคำว่าแม่ แต่ความรู้สึกย่อมมี แต่เท่าที่อ่าน แต่ละบทเป็นการพาเนเวิสเที่ยว พาเนเวิสชิม พาเนเวิสเข้าเรียน และ SD ก็กดปิด ขี้เกียจอ่านแล้ว การบรรยายว่าโลกในยุคดาราภิวัฒน์จะเปลี่ยนแปลงอะไรไปอย่างไรบ้างก็สำคัญไม่แพ้ปมของเรื่องนะคะ ทิ้งปมไว้นานพาลลืม พวกนักทดลองอุตส่าห์สร้างมนุษย์พันธุ์อึดอย่างเนเวิสได้แต่ฆ่าทิ้งซะงั้น แล้วสเปกสุดหรูหรือข้อบกพร่องของนายเนเวิสคืออะไรกันแน่ ถ้าจู่ ๆ ได้รู้คงดราม่ากันน่าดู จากนายเนเวิสที่ไร้อารมณ์ ไม่รู้จักโลกภายนอก หวาดระแวง เขาคงจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่าคนเราไม่ได้ต้องการแค่กินอิ่มนอนหลับในห้องที่ปลอดภัย แต่ยังต้องการความรัก มิตรภาพ ความใกล้ชิดและเป็นที่ยอมรับของคนสักคนนึง ลองให้เนเวิสหยุดคิดตามลำพังหลังจากวิ่งวุ่นตามคนอื่นไปทั่ว เมื่อนั้นดวงดาวก็ส่องสว่างเอง อ่านน้อยลง
sweet dreamer | 30 ม.ค. 55
15
1
ดูทั้งหมด
"เพราะอ่านจบแล้วจึงอยากบอกคุณ"
(แจ้งลบ)ส่งมาเป็นคำนิยมตามคำขอนะคะ สวัสดีค่ะ เรารู้จักคุณมานานมากแล้ว แต่คุณคงไม่รู้จักเราหรอกนะ เพราเราเป็นนักอ่านที่นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่เคยให้กำลังใจเลย และไอดีนี้ก็ไม่ได้แอดนิยายคุณเป็นแฟนคลับด้วยน่าเกลียดจริงๆ 55555 เราตามอ่านนิยายของคุณตั้งแต่คุณยังไม่รีไรท์ รีไรท์รอบแรก และคุณหนีไปเขียนเรื่องรักๆ แทน ก่อนจะกลับมารีไรท์เรื่องนี้เป็นรอบที่ ... อ่านเพิ่มเติม
ส่งมาเป็นคำนิยมตามคำขอนะคะ สวัสดีค่ะ เรารู้จักคุณมานานมากแล้ว แต่คุณคงไม่รู้จักเราหรอกนะ เพราเราเป็นนักอ่านที่นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่เคยให้กำลังใจเลย และไอดีนี้ก็ไม่ได้แอดนิยายคุณเป็นแฟนคลับด้วยน่าเกลียดจริงๆ 55555 เราตามอ่านนิยายของคุณตั้งแต่คุณยังไม่รีไรท์ รีไรท์รอบแรก และคุณหนีไปเขียนเรื่องรักๆ แทน ก่อนจะกลับมารีไรท์เรื่องนี้เป็นรอบที่สาม เรื่องของหนุ่มจากหลอดทดลอง หนุ่มน้อยเนเวิสค่ะ น่าจะรอบที่สามใช่ไหมคะ? เพราะเราเองก็ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมาแล้วต้องขอโทษด้วย แล้วเรากลับมาอ่านเรื่องนี้แบบจริงจัง รอบล่าสุดนี้เป็นรอบที่สาม สิ่งที่เขียนต่อไปคุณอาจจะไม่ชอบใจนัก และโมโหพาลลบไปเลยก็ได้ค่ะ เราไม่ว่า แต่เพราะเห็นคุณมานานจริงๆ ทำให้เรานึกไปเองรู้สึกเหมือนเพื่อนกันที่รู้จักมานาน เลยอยากจะเตือนด้วยความหวังดีที่อาจจะระคายตาไปนิดนึงนะคะ การรีไรท์หลายครั้ง ในบางทีก็ไม่ได้ทำให้เรื่องมันดีขึ้นเสมอไปค่ะ ว่ากันตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม คุณโอ๋ๆ ตัวละครเพื่อให้มีสปอตไลท์ส่งผ่านทุกคนอย่างทั่วถึง และพยายามจะเปิดประเด็นเพื่อเก็บสิ่งที่อยากจะสื่อเอาไว้ทุกเม็ดมากเกินไปค่ะ เราจะมาพูดในส่วนของตัวละครกันก่อนค่ะ คุณอาจจะเถียงว่าตัวละครฉันเจ็บหนักขนาดนี้ ยังจะเรียกว่าโอ๋อีกหรอ? ในความเข้าใจของเราการทำร้ายร่างกายตัวละครก็ไม่ได้หมายความว่าทำลายแก่นตัวละครค่ะ คุณไม่เคยดึงตัวละครให้ต่ำสุดๆ ให้คนอ่านสงสารเลยอาจจะมีบ้างที่ดึงลง แต่ก็ดึงไม่สุด เหมือนกลัวตัวละครจะมีแผลใจที่รักษาไม่หาย แล้วคุณก็กลบๆ แผลให้หายไปจากสายตา จนแบบอ้าว? นึกว่ามันจะเจ็บ มันจะปวดทำให้เกิดแรงขับการกระทำมากกว่านี้ ตัวละครบางตัวเองก็มีการปรับบุคลิก อย่างเห็นได้ชัดก็ไอคาว่ามั้งคะ? คาแรคเตอร์ของเขาไม่นิ่ง เหวี่ยงมาก ไม่ได้นิสัยเหวี่ยงนะคะหมายถึงแบบจริงๆ แล้วแกเป็นคนยังไงวะคะ ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแล้วดีไหม แต่ก็ให้เขาจืดลงเยอะเลยค่ะ และครั้งนี้ตัวละครเยอะขึ้นมากค่ะ มากจนงง มากจนคุณเกลี่ยน้ำหนักตัวละครเท่ากันไปหมด ตัวประกอบ ตัวเด่น ใครเป็นใครไม่รู้ ไม่มีใครเด่นขึ้นมาเลย งงไปหมดแล้วว่าใครมาจากก๊กไหน ยังดีที่ตาหนูเนเวิสเป็นตัวละครที่ค่อนข้างซู(ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะคะ เราชอบความจำไมและความขัดแย้งในตัวตาหนูที่ต้องการจะสื่อพอสมควร) ที่เสียใจนิดหน่อยก็คงเป็นพี่หมอกที่จืดลงอย่างน่าใจหายเลยทีเดียว เราชอบตัวละครตัวนี้ค่ะ สารภาพจากใจ ความสัมพันธ์ระหว่างตาหนูกับพี่สาวเลยอ่อนลงเยอะเลยค่ะ ผิดกับน้องม่านที่ดูเหมือนจะขึ้นแท่นนางเอกกลายๆ เป็นความสัมพันธ์ที่กำกึ่งแม่เป็ดลูกเป็ดและคนรักได้อย่างประหลาดอันนี้ต้องชื่นชมนะคะ เราชอบใจตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านแล้วค่ะ อีกส่วนนึงนะคะส่วนของโทนเรื่อง ที่ผิดหวังในนิยายเรื่องนี้จนต้องเขียนมาหาคุณก็คงเป็นโทนเรื่องเนี่ยแหละค่ะ ทำให้คุณคุมโทนเรื่องไม่อยู่ สเกลเรื่องมันใหญ่ค่ะเข้าใจ แต่การเขียนคือการจัดมุมกล้องที่ทำให้รู้ว่าเราสมควรจะโฟกัสจุดไหน แต่นี่เหมือนกำลังดูหนังที่แพนกล้องเหวี่ยงไปมา แถมบางทีก็ย้อมสีแบบคอนทราสจัด บางทีก็ปรับภาพซะเบลอ มีโบเก้ลอยข้างหลัง ทำให้แนวเรื่องเสริมจากแนวแฟนตาซีของคุณมันสวิงมากเลยค่ะ จะดราม่าครอบครัว จะเอาตัวรอด จะแอคชั่น จะเฉือนคมการเมือง จะค้นฟ้าคว้าดาว จะเอายังไงก็ไม่รู้ เพราะคุณพยายามตามเก็บเนื้อเรื่องที่อุตส่าห์คิดมากเกินไป มันฟุ้งค่ะ มันตัดอารมณ์ไปมามากเกิน เราเองก็รู้สึกถึงสถานการณ์นั้นไม่เท่าไหร่ก็โดนตบมาทางนั้นทีทางนี้ที ในความคิดของเรา(ที่ไม่รู้ว่าถูกไหม) บางครั้งนิยายเรื่องหนึ่งจะต้องมีแก่นว่าต้องการจะเล่าอะไรหลักๆ ก็แค่อย่างมากสองแก่นก็พอมั้งคะ คุณจะผลักทุกอย่างเป็นแก่นเรื่องไม่ได้นะคะ หรือไม่อยากตัดจริงๆ การเล่าเรื่องก็ต้องเกลี่ยให้มันเด้งทีละอันนะคะ คุณดูเสียดายสิ่งที่คิดมามากเกินไป รักโลกในนิยายมากเกินไป เหมือนลูก เหมือนน้อง (ไม่ต้องห่วงอาการนี้ว่าแปลกไหม เป็นทุกคนค่ะเราก็เป็น) เพราะคุณอยากจะเก็บทุกอย่างไว้ เลยต้องเล่าเร็วๆ ทำให้คนอ่านมองเห็นเหตุผลในการกระทำน้อยอย่างน่าใจหายเลยค่ะ ทุกตัวละครมีการกระทำดูเลื่อนลอยไม่หมด ตรงนั้นทำไปทำไม? ตรงนี้ทำไมเค้าถึงทำ? ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพิมอะไรแบบนี้ไปทำไม แต่พอคิดๆ ดูแล้วในฐานะนักเขียนแล้ว คุณก็อาจจะอยากจะเห็นอะไรแบบนี้มั้งคะ? ก็ประมาณนี้ค่ะ สิ่งที่ความรู้สึกระหว่างการอ่านและหลังอ่านจบ ตอนแรกว่าจะพิมสองสามประโยคแต่กลายเป็นบทความได้ยังไงก็ไม่รู้ จะรออ่านนิยายแฟนตาซีจากคุณต่อไปนะคะ ในฐานะแฟนคลับนิสัยไม่ดีค่ะ อ่านน้อยลง
Daze-dazzle | 16 มี.ค. 59
6
0
"เขียนดีค่ะ"
(แจ้งลบ)ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าไม่เคยอ่านนิยายแนวนี้มาก่อน(ไซไฟแฟนตาซี) เคยแต่อ่าน เรื่องสั้นแนววิทยาศสตร์ กับ นิยายแฟนตาซีเพียวๆไปเลย เปิดเรื่องได้น่าติดตามมากเลยค่ะ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เปิดด้วยปริศนา ตัวเด่นหนีออกมาจากการช่วยเหลือของคนๆหนึ่ง ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกเหมือนอ่านการ์ตูนเรื่อง Dogs เลย (อันนี้ไม่เกี่ยว แต่รู้สึกจริงๆนะคะ) ด้วยการที่ตัวเอกใสซื่อ ... อ่านเพิ่มเติม
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าไม่เคยอ่านนิยายแนวนี้มาก่อน(ไซไฟแฟนตาซี) เคยแต่อ่าน เรื่องสั้นแนววิทยาศสตร์ กับ นิยายแฟนตาซีเพียวๆไปเลย เปิดเรื่องได้น่าติดตามมากเลยค่ะ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เปิดด้วยปริศนา ตัวเด่นหนีออกมาจากการช่วยเหลือของคนๆหนึ่ง ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกเหมือนอ่านการ์ตูนเรื่อง Dogs เลย (อันนี้ไม่เกี่ยว แต่รู้สึกจริงๆนะคะ) ด้วยการที่ตัวเอกใสซื่อ หนีมาจากที่อื่น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่ที่มาอยู่ ภูมิหลังก็ยังเป็นปริศนาก็เลยน่าติดตามดูต่อเรื่อยๆว่าจะเป็นอย่างไร ตัวละครหลายตัวก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แล้วก็อาจจะเป็นเพราะวัยของตัวละครแตกต่างกันก็เลยทำให้แยกลักษณะคำพูดและนิสัยได้ง่ายด้วย โครงเรื่องปูมาด้วยปริศนาแล้วค่อยๆเฉลยทีละนิด ทำให้ดูน่าติดตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้ภาษาได้ลื่นไหลมากค่ะ ภาษาสวย เขียนได้อารมณ์แล้วก็เห็นภาพ เหมือนเรากำลังมองเห็นการผ่านตัวอักษรอยู่ คอยลุ้นความคิดและการกระทำของตัวเด่นๆ ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป (ซึ่งความคิดหลายอย่างของเนเวิสก็ไม่เหมือนเราเท่าไหร่ ถ้าเป็นเราเราอาจจะไม่คิดช่วยเหลือใครขนาดนั้น เพราะเราคงไม่ไว้ใจมนุษย์หรือไม่พร้อมที่จะช่วยเหลือใคร) เรื่องนี้เป็นไซไฟแฟนตาซีที่ดีเลยค่ะ คืออ่านแล้วรู้ว่ามีไซไฟเจือๆอยู่ในเรื่อง มันมีสเหน่ในแบบของไซไฟ ปล. เหมือนเรื่องนี้แล้วเหมือนได้กลิ่นดราม่าหน่อยๆ ขอโทษที่อ่านได้ไม่กี่ตอน แล้วก็ขอโทษที่เขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่ วิจารณ์ไม่เก่ง แหะๆ อ่านน้อยลง
Mochock | 22 ธ.ค. 56
4
3
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น